ขายฝาก คืออะไร?
ขายฝาก คือ แหล่งช่องทางเข้าถึงเงินทุนอย่างถูกกฎหมาย ที่ใช้หลักการของการนำทรัพย์สินมาค้ำประกันเงินกู้ โดยมีกฎหมายขายฝาก ฉบับปี 2562 ควบคุมและกำหนดเพดานดอกเบี้ยสูงสุดที่ 15% ต่อปี อีกทั้งต้องทำธุรกรรมต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น การขายฝากจึงสมบูรณ์
“ปลาทองขายฝาก เป็นการรับขายฝากอสังหาฯ ดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.7% ต่อเดือน“

สารบัญเนื้อหา
- กฎหมายขายฝาก ฉบับปี 2562
- ทุนปลาทอง ช่วยด้านไหนบ้าง
- ขายฝาก เพื่อ ขยายธุรกิจ
- ขายฝาก เพื่อ สร้างเครดิต
- ขายฝาก เพื่อ ขอเงินกู้สถาบันการเงิน
- ขายฝาก เพื่อ ปิดหนี้นอกระบบ
- ขายฝาก เพื่อ ปิดหนี้บัตรเครดิต
- เปลี่ยนนายทุนขายฝาก
- เปรียบเทียบดอกเบี้ยนอกระบบ เทียบกับ ปลาทองขายฝาก
กฎหมายขายฝาก ฉบับปี 2562
- การขายฝาก คือ สัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซื้อทันทีที่จดทะเบียนโดยมีข้อตกลงกันว่าผู้ขายฝากอาจไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ภายในเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 1 ปีและไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนขายฝาก ผู้ขายฝากจะไถ่คืนเมื่อใดก็ได้ ไม่ต้องรอครบกำหนดเวลาตามสัญญา แต่ถ้าไม่ใช้สิทธิไถ่คืนในระยะเวลาที่กำหนดเวลา ย่อมหมดสิทธิ์ไถ่ทรัพย์สินนั้นอีกต่อไป กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ซื้อฝากโดยเด็ดขาด (แต่ตกลงซื้อคืนได้) ซึ่งสินไถ่นั้น จะกำหนดไว้สูงกว่าราคาขายฝากก็ได้ แต่คำนวณเป็นดอกเบี้ยนับแต่วันที่จดทะเบียนขายฝากจนถึงวันครบกำหนดเวลาไถ่แล้วต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี
- ผู้ขายฝากยังคงมีสิทธิครอบครอง ใช้สอย และถือเอาประโยชน์จากทรัพย์สินที่ขายฝากได้จนถึงวันที่หมดสิทธิในการไถ่ โดยไม่ต้องชำระค่าตอบแทนให้แก่ผู้ซื้อฝาก ส่วนดอกผลที่งอกจากทรัพย์สินที่ขายฝากในระหว่างระยะเวลาขายฝากให้ตกเป็นของผู้ขายฝากด้วย
- สัญญาขายฝากซึ่งกำหนดเวลาไถ่ไว้ต่ำกว่า 10 ปี หากผู้ขายฝากไม่อาจใช้สิทธิไถ่ภายในกำหนดเวลาได้ควรตกลงกับผู้ซื้อฝากเพื่อขยายกำหนดเวลาไถ่ก่อนครบกำหนดเวลาไถ่ โดยหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ซื้อฝากและควรนำข้อตกลงนั้นมาจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยคู่สัญญาต้องมาดำเนินด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมนำหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ซื้อฝากที่ทำขึ้นก่อนสิ้นสุดกำหนดเวลาไถ่มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
- หากผู้ขายฝากต้องการได้กรรมสิทธิ์คืน ต้องขอไถ่ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาขายฝากหรือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ (ถ้ามี) โดยชำระสินไถ่ให้แก่ผู้ซื้อฝาก ถ้าผู้ขายฝากไม่อาจใช้สิทธิไถ่กับผู้ซื้อฝากได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดอันมิใช่ความผิดของผู้ขายฝาก ผู้ขายฝากมีสิทธิวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ต่อสำนักงานวางทรัพย์หรือสำนักงานที่ดินทุกจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินที่รับจดทะเบียนขายฝาก ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันถึงกำหนดเวลาไถ่ หรือนับแต่วันที่เหตุอันทำให้ไม่อาจใช้สิทธิไถ่ดังกล่าวได้สิ้นสุดลง แล้วแต่กรณี
- ก่อนวันครบกำหนดเวลาไถ่ไม่น้อยกว่าสามเดือนแต่ไม่เกิน 6 เดือน ผู้ซื้อฝากมีหน้าที่แจ้งกำหนดเวลาไถ่ และจำนวนสินไถ่ พร้อมทั้งแนบสัญญาขายฝาก หรือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่จากขายฝาก (ถ้ามี) ไปยังผู้ขายฝากโดยทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามที่อยู่ที่ปรากฏในสัญญาขายฝาก หากผู้ซื้อฝากไม่ใช่ผู้ซื้อฝากเดิม ต้องแจ้งด้วยว่าจะไถ่ถอนกับผู้ใดและต้องชำระสินไถ่ที่ใด หากไม่แจ้งตามวิธีดังกล่าว ผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ได้ภายในหกเดือนนับแต่วันครบกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาขายฝาก หรือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ (ถ้ามี) โดยชำระสินไถ่ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญาขายฝาก
- การจดทะเบียนไถ่จากขายฝากเป็นคนละส่วนกับการใช้สิทธิไถ่ การจดทะเบียนไถ่จากขายฝากจะทำเมื่อใดก็ได้ แต่การใช้สิทธิไถ่ต้องทำภายในกำหนดเวลาตามสัญญาขายฝาก หรือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ (ถ้ามี) ด้วยวิธีการตาม ข้อ 4. เมื่อใช้สิทธิไถ่แล้วควรมาขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยเร็ว
- เมื่อชำระสินไถ่แล้ว กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายฝากตกเป็นของผู้ขายฝากทันที ผู้ขายฝากนำหลักฐานเป็นหนังสือซึ่งแสดงว่ามีการไถ่ถอนแล้วจากผู้ซื้อฝาก หรือหลักฐานการวางทรัพย์ พร้อมหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาขอจดทะเบียนไถ่จากขายฝากต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวได้ แต่ในกรณีที่ผู้ขายฝากวางทรัพย์แล้วไม่ได้หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมา ให้นำหลักฐานการวางทรัพย์มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อหมายเหตุไว้ในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินฉบับสำนักงานที่ดิน และลงบัญชีอายัดให้ทราบถึงการวางทรัพย์ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ซื้อฝากทำการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อไป
- หากผู้ซื้อฝากไม่ได้แจ้งไปยังผู้ขายฝากตาม ข้อ 5. แต่ผู้ขายฝากดำเนินการไถ่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันครบกำหนดไถ่ที่ระบุไว้ในสัญญาขายฝากหรือหนังสือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ ให้ผู้ซื้อฝากทำหลักฐานเป็นหนังสือว่ามีการไถ่ถอนแล้ว โดยระบุให้ได้ใจความว่า “ผู้ซื้อฝากได้รับค่าไถ่จากขายฝากครบถ้วนและถูกต้องแล้วแต่วันที่ เดือน พ.ศ. ยินยอมให้มีการไถ่ถอนได้” พร้อมทั้งรับรองว่าผู้ซื้อฝากมิได้มีหนังสือแจ้งผู้ขายฝากทราบเกี่ยวกับกำหนดเวลาไถ่และจำนวนสินไถ่
แหล่งที่มาเรื่อง: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมที่ดิน
https://drive.google.com/file/d/1SPoUILmQzYb_VYNFmfgHjkEEt3i5a1wR/view?usp=sharing
ทุน ปลาทองขายฝาก ช่วยด้านไหนบ้าง?

ทุน ปลาทองขายฝาก เป็นช่องทางเปิดโอกาสให้ บุคคลทั่วไป นักธุรกิจ และ เจ้าของกิจการ เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยถูก ที่ช่วยลดภาระทางการเงิน ตามประสบการณ์แล้ว ผู้ขายฝากจะนำเงินทุนไปใช้ดังเช่น
- เงินทุนเปิดกิจการ / ขยายธุรกิจ
- เงินทุนต่อยอดกิจการ
- ปิดหนี้นอกระบบ / ปิดหนี้บัตรเครดิต
- เปลี่ยนนายทุนนอกระบบ
- ลดภาระดอกเบี้ย / เพิ่มวงเงิน
- สร้างบ้าน / ซื้อเครื่องมือสร้างรายได้
- ลดภาระการผ่อนชำระ
- ทุนรักษาพยาบาล
“โอกาสปลดหนี้ของคุณมาถึงแล้ว ระหว่างขายฝากก็ยังใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อยู่”
ขายฝาก เพื่อ ขยายธุรกิจ

การขยายธุรกิจ บางครั้งต้องการเงินทุน ที่สถาบันการเงิน ธนาคาร ไม่สามารถอนุมัติได้ รวมถึง เกินวงเงินกู้ ไม่มีเครดิต ติดบุโร หรือ ใช้ระยะเวลานาน ทำให้เสียโอกาสในการลงทุน เจ้าของธุรกิจ จึงต้องหาแหล่งทุนอื่นที่ปลอดภัย และ ดอกเบี้ยถูก
ตัวอย่าง:
เฮียเส็ง มีโครงการเปิดสาขาร้านชาบูเพิ่มอีก 2 สาขา ต้องใช้เงินทุน 2 ล้านบาท ซึ่ง เฮียเส็งธนาคารไม่สามารถอนุมัติวงเงินเพิ่มได้เนื่องจากเต็มเครดิต เฮียเส็งคำนวณว่า ร้านชาบู 2 สาขานี้จะทำเงินให้เฮียเส็งได้กำไรไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อปี หากกู้ธนาคารต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 เดือนในการอนุมัติ ดอกเบี้ยที่ 2 แสนบาทต่อปี และ ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะผ่านหรือไม่ เฮียเส็งเลยเลือกใช้วิธีการขายฝาก กับ “ปลาทองขายฝาก” ซึ่งอนุมัติรวดเร็ว ไม่เช็คเครดิตวงเงิน และ ดอกเบี้ยเพียง 2 แสนบาท เมื่อเทียบกำไรที่จะได้จากร้านชาบูที่ 1 ล้านบาทแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก
ขายฝาก เพื่อ สร้างเครดิต
ธนาคาร เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของธุรกิจ นักธุรกิจ ที่เครดิตดี มีประวัติดี แต่บางครั้งอาจประสบสถานการณ์อาจทำให้เจ้าของธุรกิจหมุนเงินไม่ทัน ต้องมีประวัติค้างชำระ หรือ ผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ติดเครดิตบุโร และส่งผลให้ธนาคารอื่นๆไม่อนุมัติวงเงินด้วย การขายฝากกับ
“ปลาทองขายฝาก จึงเป็นการนำเงินทุนมาหมุน ชำระหนี้ธนาคาร แล้วสร้างเครดิตใหม่ เพื่อขออนุมัติสินเชื่อกับธนาคารได้ใหม่ในอนาคต”
ตัวอย่าง:
เจ้อิ้ม เป็นเถ้าแก่เนี้ยค้าส่งอาหารทะเลสมุทรสงคราม ผิดนัดชำระหนี้ธนาคารมา 3 งวดแล้ว เนื่องจากปัญหาประมงที่อ่าวไทย ทำให้เจ้อิ้มขาดสภาพคล่อง ทำให้เจ้ติดเครดิตบุโร และกำลังโดนระงับสินเชื้อจากธนาคารอื่นๆด้วย เจ้อิ้มจึงนำที่ดินแถวนนทบุรีมาขายฝากกับ “ปลาทองขายฝาก” ด้วยวงเงิน 4 ล้านบาท ด้วยดอกเบี้ยที่ถูกเพียง 4 แสนบาทต่อปี ของ “ปลาทองขายฝาก” ทำให้เจ้อิ้วจ่ายไหว เพราะใกล้เคียงดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร โดยเจ้วางแผนว่าจะนำเงินทุนที่ได้ไปชำระหนี้ธนาคารทั้งหมด แล้วจัดการเดินบัญชีบริษัทใหม่ โดยใช้ระยะเวลา 3 ปี แล้วหลังจากที่เครดิตกลับมาดีเหมือนเดิมแล้ว จะนำที่ดินนนทบุรีแปลงนี้เข้าจำนองกับธนาคารเพื่อทำการปิดขายฝากกับปลาทอง
ขายฝาก เพื่อ ขอกู้สถาบันการเงิน
การกู้เงินกับสถาบันการเงินมักมีขั้นตอนมากมาย เช่น ต้องมีเครดิต ต้องเดินสเตทเมนท์ ต้องมีคนค้ำประกัน เป็นต้น ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ยิ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ยยิ่งแพงเหมือนดอกเบี้ยบัตรเครดิต ดังนั้น
“ปลาทองขายฝาก จึงเป็นทางเลือกในการสร้างเครดิตสำหรับธุรกิจ”
ตัวอย่าง:
คุณวรนุช มีที่ดินติดถนนใน อ.เมือง แผนจะเปิดตลาดนัด แต่ต้องใช้เงินทุน 2 ล้านบาท ธนาคารแจ้งว่า คุณวรนุช ไม่เคยเดินสเตทเมนท์ ไม่เคยทำธุรกิจ ไม่มีเครดิต ทำให้ไม่สามารถกู้ได้ คุณวรนุชจึงมีความคิดจะ สร้างสเตทเมนท์ และ สร้างเครดิต ด้วยการขอทุนจาก “ปลาทองขายฝาก” คุณวรนุชจึงนำที่ดินแปลงนั้นมาขายฝากกับปลาทอง ด้วยวงเงิน 2 ล้านบาท แล้วเปิดตลาดนัด นำเงินค่าเช่าและกำไรที่ได้เข้าธนาคาร สร้างสเตทเมนท์ แสดงรายได้รายจ่าย และ สร้างเครดิตด้วยการเป็นเจ้าของกิจการ ผ่านระยะเวลา 1 ปี คุณวรนุชจึงไถ่ถอนที่ดินแล้วนำไปจำนองกับธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าบุคคลทั่วไปเนื่องจากมีเครดิตแล้ว
ขายฝาก เพื่อ ปิดหนี้นอกระบบ

หนี้นอกระบบเป็นตัวการหลักที่ทำให้ผู้กู้ต้องติดในวังวนของหนี้ไม่สิ้นสุด เพราะดอกเบี้ยที่สูงถึง 20 – 50% ต่อปี หากผู้กู้กู้เงิน 1 แสนบาท ต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยถึง 2 หมื่น ถึง 5 หมื่นบาท หากผู้กู้กู้เงิน 1 ล้านบาท ต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยถึง 2 แสน ถึง 5 แสนบาทต่อปี ทางแก้ที่จะหนีพ้นจากกับดักหนี้นอกระบบคือ การลดภาระดอกเบี้ยให้ได้
ตัวอย่าง:
นายการณ์ ได้ไปกู้เงินนายทุนนอกระบบ ทำให้เป็นหนี้นอกระบบ 7 แสนบาท ดอกเบี้ยที่นายการณ์ต้องเสีย คือ 2.4 แสนบาทต่อปี ทำให้นายการณ์ไม่มีทางออก เพราะดอกเบี้ยที่สูง จึงไม่มีทางจ่ายคืนเงินต้นได้ ต้องผ่อนดอกไปเรื่อยๆ บางเดือนก็ต้องกู้ยืมนอกระบบรายอื่นเพื่อมาจ่ายดอกก้อนนี้ ดังนั้นนายการณ์ ได้ติดต่อ “ปลาทองขายฝาก” เพื่อขายฝากที่ดินของตน ด้วยวงเงิน 7 แสนบาท แล้วนำเงินทุนที่ได้ไปปิดหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูง ทำให้ดอกเบี้ยเหลือเพียง 7 หมื่นบาทต่อปี ลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายได้ถึง 1.7 แสนบาทต่อปี ทำให้นายการณ์มีเงินเหลือ 1.7 แสนบาทต่อปีไปปิดเงินต้น และสามารถหมดหนี้ได้ภายใน 4 ปี
ขายฝาก เพื่อ ปิดหนี้บัตรเครดิต
หนี้บัตรเครดิต ไม่เพียงต้องเสียดอกเบี้ยที่สูง ยังต้องเสียค่าปรับต่างๆ รวมทั้งเสียเครดิตที่จะเป็นอุปสรรคในการทำธุรกรรมใดๆกับธนาคารในอนาคตอีกด้วย ดังนั้น หนี้บัตรเครดิตจึงเป็นหนี้ที่มีผลเสียสูงอย่างหนึ่ง
ตัวอย่าง:
นางปาวรี เป็นพนักงานบริษัท มีบัตรเครดิตอยู่ 5 ใบ วงเงินรวม 9 แสนบาท นางปาวรีได้ผ่อนชำระขั้นต่ำมาตลอด โดยไม่ได้สังเกตุว่ายอดหนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเงินที่ค้างชำระแต่ละเดือน จะถูกคิดดอกเบี้ยในอัตรา 18% ต่อปี ยังไม่รวมค่าปรับต่างๆที่ชำระไม่ตรงงวด เมื่อบัตรเครดิตทุกใบเต็มวงเงิน ทำให้ดอกเบี้ยที่ นางปาวรี ต้องเสียให้ธนาคารคือเกือบ 2 แสนบาทต่อปี ยังไม่รวมค่าปรับค้างชำระอีกเกือบแสนบาท ทำให้นางปาวรีเสียเครดิตกับสถาบันการเงิน ไม่สามารถกู้ซื้อรถ ซื้อบ้านได้อีก “ขายฝากปลาทอง” จึงเป็นตัวช่วยของนางปาวรีในการฟื้นฟูเครดิต นางปาวรีได้นำที่ดินมาขายฝากวงเงิน 1 ล้านบาท เพื่อนำไปปิดหนี้บัตรเครดิตทุกใบ ทำให้นางปาวรี ฟื้นฟูเครดิตกับธนาคาร ฟื้นฟูเครดิตบุโร อีกทั้ง ยังสามารถลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย เหลือเพียง 1 แสนบาทต่อปี
เปลี่ยนนายทุนขายฝาก

ปลาทองขายฝาก ช่วยเปลี่ยนนายทุนขายฝาก ให้เปลี่ยนมา ขายฝาก กับทุนของปลาทอง นอกจากจะได้ลดดอกเบี้ย หรือ ต่ออายุสัญญา และ ถูกต้องตามกฎหมาย แล้ว ผู้กู้สามารถปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ของทาง”ปลาทองขายฝาก”ได้ เจ้าหน้าที่จะช่วยประสานงานด้านเอกสาร การดำเนินการ การต่ออายุ ได้อย่างเป็นระบบและซื่อสัตย์ยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบดอกเบี้ยนอกระบบ กับ ปลาทองขายฝาก
ตัวอย่าง 1:
นางพร ต้องการเงินทุนสำหรับสร้างโรงงานผลิตสินค้าชุมชน จำนวน 1,000,000 บาท แต่นางพรไม่เคยมีการทำบัญชีกับธนาคาร และไม่มีเครดิตบุโร ดังนั้นจึงมีนายทุนนอกระบบ มาเสนอให้นางพรกู้ยืมด้วยอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อเดือน ซึ่งหากคิดเป็นปี จะเท่ากับ 3% x 12เดือน = 36% ต่อปี หมายความว่า เฉพาะดอกเบี้ย นางพรต้องจ่ายถึง 360,000 บาทต่อปี …
หากนางพรคิดว่าจะคืนเงินนอกระบบภายใน 3 ปี เท่ากับว่า นางพรต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมเงินต้นถึง 2,080,000 บาท!!! ……… ในทางกลับกัน หากนางพร เจอ ปลาทองขายฝาก ซึ่งเป็นเงินทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อผ่านการพิจารณา นางพร จะมีดอกเบี้ย เพียง 0.75% ต่อเดือน ซึ่งหากคิดเป็นปี จะเท่ากับ 9% และดอกเบี้ยที่ นางพรจะต้องจ่ายก็เหลือเพียง 90,000 บาทต่อปี ทำให้ตลอดระยะเวลา 3 ปี นางพรสามารถลดดอกเบี้ยได้ถึง 810,000 บาท
ตัวอย่าง 2:
นายสมหมาย ต้องการเงินทุนไปไถ่ถอนหนี้นอกระบบ ที่ได้ทำการกู้ยืมมาเพื่อนำเข้าเสื้อผ้าขายส่ง จำนวน 1,500,000 บาท ซึ่งได้ทำการขายฝากที่ดินกับนายทุนเดิมที่คิดดอกเบี้ย รวมค่าดำเนินการที่ 20% ต่อปี ทำให้นายสมหมายมีภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคือ 300,000 บาท ต่อปี เมื่อนายสมหาย ทำการขายฝากกับ “ปลาทองขายฝาก” ทำให้นายสมหมายจ่ายดอกเบี้ยเหลือเพียง 45,000 บาท จึงประหยัดเงินได้ถึง 55,000 บาท ซึ่งให้นายสมหมายสามารถไถ่ถอนหนี้ได้เร็วกว่าเดิมถึง 2 ปี
ตัวอย่าง 3:
นางสาวสาวิภา ได้กู้เงินนอกระบบมาเพื่อหุ้นเปิดร้านกาแฟ จำนวน 600,000 บาท หนี้นอกระบบก้อนนี้มีดอกเบี้ย 114,000 บาท/ต่อปี หรือเท่ากับ 2% ต่อเดือน (24%ต่อปี) หากนางสาวสาวิภา มาทำการขายฝากกับปลาทอง ที่คิดดอกเบี้ยเพียง 60,000 บาท (10%ต่อปี) จะสามารถลดจ่ายดอกเบี้ย ได้ถึง 54,000 บาท ทำให้นางสาวสาวิภามีเงินเหลือมากขึ้น และ ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
ปลาทองขายฝาก
รับปิดหนี้นอกระบบ เปลี่ยนนายทุน
ดอกเบี้ยถูกที่สุด 0.7%
ทีมงานให้คำปรึกษาฟรี ถูกกฎหมายขายฝาก
ติดต่อทีมงาน : 092-395-4451 หรือ LINE: @ptcash